"ตำนานที่ยังหายใจ คุณบุญเสริม เกียรติกุล นำกิ่งเพชรบ้านนา มาจากซาอุ ต่อมากลายเป็นชวนชมที่นิยมปลูกกันกันมากในเมืองไทย"
"ขออนุญาตคัดลอกบทความของคุณเทิดเกียรติ ที่เขียนไว้เมื่อ 10 มี.ค. 53 ใน pantown"
"ผู้สร้างตำนานให้วงการชวนชมไทย ปัจจุบัน(ภาพถ่ายเมื่อ พ.ศ.2560 ) อายุ 88 ปี สุขภาพยังแข็งแรง เป็นคนชอบเพราะเลี้ยงต้นไม้เป็นอย่างมาก ครั้งเมื่อสมัยที่กล้วยไม้กำลังดังประมาณ 30 ปีมาแล้วท่านก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการกล้วยไม้มาก่อน มีอาชีพหลักเป็นคนขับรถขนส่ง ร.ส.พ. จึงมีความชำนาญในการขับรถเป็นอย่างดี ในปี 2520 ลุงบุญเสริม ไปขุดทองยังประเทศทางตะวันออกกลาง ซาอุดิอราเบีย ไปอยู่นานมาก หลายปีจะรู้เส้นทางในประเทศซาอุ และสภาพของแต่ละเมืองเป็นอย่างดี ระหว่างที่อาศัยอยู่ที่พักมักจะหาต้นไม้แปลกๆ ในทะเลทรายมาปลูกไว้เสมอ จนอยู่มาวันหนึ่งได้เดินทางไปเมืองคัมมิต ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก และมีภูเขาหินมากมาย จึงได้ถ่ายรูปไว้บ้าง แต่วันที่ไปพบ ชวนชมนั้นไม่ได้เอากล้องไปเพราะไปพบด้วยความบังเอิญ ต้นที่พบเป็นต้นที่ล้มอยู่ในลักษณะนอน มีขนาดใหญ่เท่ากับถังขนาด 200 ลิตร สามารถขึ้นไปขี่เล่นได้ ซึ่งเป็นชวนชมที่แปลกมาก ไม่เคยพบเห็นมาก่อน จึงตัดสินใจตัดกิ่งมาปักชำไว้ยังที่พักเป็นเวลา 1 ปี แปลกตรงที่ว่าไม่ยอมออกรากแต่ก็ไม่ตาย
ปีที่นำกลับมาจากประเทศซาอุ ประมาณ ปี 2531 โดยการแอบเอากระดาษห่อไว้ในลังโทรทัศน์ และด้ำมาปลูกไว้ในกระถางขนาด 12 นิ้ว ที่ บางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีการปลูกครั้งนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะต้องกลับไปขุดทองที่ประเทศซาอุต่อ หลังจากไม่ได้ไปซาอุ ก็ได้ย้ายบ้านมาอยู่ที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก เพราะมีที่ดินมรดกอยู่ที่ ต.เขาเพิ่ม ประมาณปลายปี 2534 ซึ่งตอนที่มาอยู่ที่อำเภอ บ้านนี่ก็เริ่ม ติดผักและมีการเพาะเลี้ยง มาเรื่อยๆ บางครั้งมีญาติพี่น้องมาเที่ยวหา อยากได้ก็แจกจ่ายไปในขณะนั้นเขานิยมปลูกโป๊ยเซียนกัน พอมาถึงปี 2539 โป๊ยเซียนเริ่มเพิ่มมากขึ้นจนราคาเริ่มตกต่ำ คุณอนุชา กับเพื่อนๆที่เรียนจบเกษตรลพบุรี คือ อนุรักษ์ สายบุญยัง ขวัญฑูรย์ ใจแสวง ได้มาชวน คุณเทิดเกียรติ เกียรติกุล ซึ่งเป็นพี่ชาย ขณะนั้นทำงานอยู่ที่ ธ.ก.ส.สาขานครนายก เห็นว่ามีชวนชมที่แปลกอยู่ต้นหนึ่งที่คุณพ่อบุญเสริมนำมาเพราะเลี้ยงไว้และมีต้นลูกรุ่น 1 อยู่ 170 ต้น จึงดัดสินใจร่วมตัวกันลงทุน และรวบรวมสายพันธุ์มากที่สุด หวังว่าจะเป็นสวนชวนชมที่มีสายพันธุ์มากที่สุดในเมืองไทย
"คุณเทิดเกียรติ เกียรติกุล / ลูกค้า / คุณลุงบุญเสริม เกียรติกุล กับชวนชมกิ่งเสียบ และกิ่งตอนแท้ๆ ล้านเปอร์เซ็นต์"
เนื่องจากการลงทุนตั้งสวนต้องใช้เงินทุนจำนวนมากจึงไปชวนรุ่นน้องอีกคน คือ คุณเฉลียว ปิ่นกุมภีร์ มาร่วมอีกคน หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณปี 2540 ปีที่ประเทศไทยฟองสบู่แตก โดยมีการผลิตลูกๆเพชรบ้านนาออกมาอีก 3 รุ่น คือ รุ่น 2 จำนวน 140 ต้น รุ่น 3 จำนวน 40 ต้น รุ่น 4 ประมาณ 70 ต้น ซึ่งภายหลังได้นำรุ่น 3 และ 4 มารวมกันเพื่อจับสลากจำหน่าย แบ่งออกเป็น 2 ขนาดคือ ขนาดราคา 3,000 บาท และ ขนาด 5,000 บาท ดังนั้น รุ่น 1-4 จึงเป็นไม้ที่เกิดจากกิ่งแม่โดยตรง ส่วนรุ่น 5 น่าจะเกิดจากกิ่งแม่ที่ฝากไว้กับตอไทยที่อยู่ในสวน ซึ่งในช่วงหลังเศรษฐกิจเริ่มฟองสบู่แตกทำให้วงการชวนชมเงียบไปด้วย
แต่ในช่วงแรกสวนเพชรบ้านนา ก็ประสบความสำเร็จ อยู่ในแนวหน้าของผู้เล่นชวนชมเลยก็ว่าได้ แต่เนื่องจากสมัยนั้นเป็นการเพาะเลี้ยงไม้สีหรือที่เรียกว่าพันธุ์ฮอลแลนด์เป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีพวกยักษ์อยู่บ้าง คือ ยักษ์หน้าวัง ยักษ์ซาอุ ของสวนอโยธยา ยักษ์สิงห์บุรี ด้วยความมาแรงของชวนชมไม้สีสมัยก่อนไม่ต่างอะไรกับไม้ตัวอื่นๆที่ขยายพันธุ์โดยการเสียบยอด และเป็นการเข้าใจผิดว่าเป็นไม้ที่ส่งออกต่างประเทศได้ เพราะคนที่รู้เรื่องการส่งออกมีน้อยคน การสื่อสารก็ไม่เหมือนกับในปัจจุบัน จึงเป็นช่วงที่ผู้ที่นำเข้าชวนชมจากต่างประเทศได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ ทำให้ชวนชมในช่วงแรกต้องปิดฉากลง สวนชวนชมเพชรบ้านนาเองก็ต้องต้องเลิกไปในที่สุดเนื่องจากสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว.....
"ผมหล่อใหมครับ"
"วันนี้ที่ได้มา กิ่งเสียบเพชรบ้านนาแท้บนตอไทย และกิ่งชำเพชรบ้านนา ขนาดใหญ่พอสมควร ซึ่งใหญ่ขนาดนี้เจ้าของหวงไม่อยากขาย"
ปัจจุบันต้นแม่พันธุ์เพชรบ้านนาที่นำมาจากประเทศซาอุได้กลับไปอยู่ จ.ชลบุรีเช่นเดิมโดยการขายให้กับอุทยานหินล้านปี ที่พัทยา และตายไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ที่ได้สระสมไว้หลายคน ที่ยังหลงเหลือในเมืองไทย บางส่วนถูกขายออกไปนอกประเทศ กิ่งแม่ที่เสียบต่อไทยไว้ยังคงอยู่ที่คุณอนุชา ...ต่อมาประมาณปี 2545 ประเทศอินโดฯเริ่มมีความสนใจชวนชมของไทยที่มีความสวยงามแปลกกว่าไม้ตระกูลยักษ์ ให้ทรงสวยงามกว่าโซโคทรานั่มเรียกกันในเชิงการค้าว่า Thai Soco Petch Ban Na และยังมีไม้อีกหลายตัวที่ได้รับความนิยมเช่นกัน คือ มงกุฎทอง มงกุฎเพชร เข้าหินซ้อน รวมไปถึงไม้ตระกูลยักษ์ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง และเป็นการกลับมาของเพชรบ้านนา ซึ่งเป็นส่งออกอย่างแท้จริงและเป็นที่ที่ยอมรับของชาวต่างประเทศไปแล้ว"
"พ.ศ.2564/2021"
"พ.ศ.2565/2022"
"พ.ศ.2565/2022" ใครที่สนใจเมล็ดแท้ 100% เมื่อถึงฤดูการเก็บเมล็ด สอบถามได้นะครับ