ตกขาวแบบไหนที่อันตราย
ตกขาวแบบไหนที่อันตราย ตกขาวที่มีกลิ่นเหม็นและออกมาในปริมาณที่มากเกินปกติ และมีสีต่างๆ เช่น สีเหลือง สีเขียว สีเทาตกขาวที่ผิดปกติและอันตรายที่สุดคือตกขาวสีน้ำตาล มีฟองด้วย กลิ่นเหม็นอับ เวลาปัสสาวะออกมาจะมีอาการแสบคันเพราะช่องคลออดเกิดการระคายเคือง บางคนแทบทนไม่ได้กับอาการแสบคันเพราะบางคนนั้นมีอาการรุนแรงมากและคันมาจนถึงบริเวณขาหนีบและแสบแดง หากพบว่ามีอาการดังกล่าวควรไปปรึกษาแพทย์และรับคำแนะในการรักษา
การป้องกันการเป็นตกขาว
1.ไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานานๆ ถ้าหากไม่มีความจำเป็น
2.ควรรบประทานอาหารที่สดใหม่และมีคุณภาพ ดื่มน้ำให้เยอะๆ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอและที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ
3.ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ให้ล้างอวัยวะเพศก่อนทุกครั้ง
4.ไม่ควรใส่กางกางที่มีขนาดเล็กกว่าไซต์ตัวเองหรือรัดเกินไป
5.ต้องดูแลอวัยวะเพศให้แห้งอยู่เสมอ และอย่าให้อับชื้น
6.ให้คุณเช็ดก้นจากหน้า
7.ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดเพราะช่องคลอดสะอาดอยู่แล้ว
http://youtu.be/5dos3xj9Yy4
การใช้ยาในการรักษา
1.ยาเหน็บช่องคลอด วิธีใช้คือสอดเข้าไปในช่องคลอด ให้ใช้ร่วมกับยาทา จะทำให้อาการตกขาวหายเร็วกว่าการรักษาด้วยการกินยาเพียงอย่างเดียว อีกทั้งยาเหน็บยังเป็นสมุนไพรด้วย และต้องระวังตกขาวที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ด้วย อาจจะทำให้คุณติดเชื้อได้
2.การกินยาปฏิชีวนะเป็นการรักษาอาการตกขาว และฆ่าเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อ หรือเพื่อลดปริมาณเชื้อโรคลง ให้ร่างกายของเรานั้นเข้าสู่สภาวะปกติ โดยยานี้สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป แต่ก่อนที่จะซื้อยาต้องไปปรึกษาแพทย์ก่อนนะค่ะ
อ.พญ.เจนจิต ฉายะจินดา
นางสาวปารีดา เปิ่นสูงเนิน
หน่วยโรคติดเชื้อทางนรีเวชและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สตรี
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ภาวะตกขาวมีกลิ่นเหม็นเป็นภาวะที่พบได้บ่อย ไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงของจำนวนแบคทีเรียในช่องคลอด อย่างไรก็ตาม การมีเพศสัมพันธ์อาจทำให้เกิดภาวะนี้ได้ เนื่องจากน้ำอสุจิซึ่งมีความเป็นด่าง จะไปเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในช่องคลอดซึ่งปกติมักมีความเป็นกรดสูง โดยฝ่ายชายมักไม่มีความผิดปกติใดๆ
ภาวะตกขาวมีกลิ่นเหม็นเกิดจากสาเหตุใด
เนื่องจากความสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอดเปลี่ยนแปลงไป โดยปกติในช่องคลอดจะมีแบคทีเรียหลายกลุ่ม กลุ่มดีคือกลุ่มแลคโตแบซิลไล ซึ่งสร้างสภาวะกรดในช่องคลอด เพื่อควบคุม ไม่ให้แบคทีเรียกลุ่มไม่ดีคือกลุ่มที่ไม่ใช้ออกซิเจนเพิ่มจำนวนขึ้น ภาวะใดก็ตามที่ทำให้แบคทีเรียกลุ่ม ไม่ดีเพิ่มจำนวนขึ้น ก็จะทำให้มีภาวะตกขาวมีกลิ่นเหม็นเกิดขึ้น ได้แก่ การสวนล้างช่องคลอด รวมถึงการนอนแช่ในอ่างน้ำที่มีฟองสบู่มาก การใช้น้ำยาเฉพาะที่หรือสเปรย์ดับกลิ่นที่บริเวณอวัยวะเพศ ใช้ผงซักฟอกปริมาณมากที่เป้ากางเกงชั้นในแล้วล้างออกไม่หมด การสูบบุหรี่ เป็นต้น นอกจากนี้ พบว่าการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย (เนื่องจากน้ำอสุจิเป็นด่าง) การมีเลือดประจำเดือน (มีอาการช่วงก่อนมีประจำเดือนและหลังหมดประจำเดือนใหม่ๆ) หรือการใส่ห่วงอนามัยชนิดมีฮอร์โมน ก็จะเพิ่มโอกาสการมีภาวะนี้ด้วย
ภาวะนี้ไม่ใช่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่การมีเพศสัมพันธ์ทำให้เกิดอาการได้ และสามารถพบได้ในความสัมพันธ์ระหว่างหญิงกับหญิง และการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ปาก โดยเกิดจากน้ำลายไปทำลายความเป็นกรดในช่องคลอด
อาการและอาการแสดงของภาวะตกขาวมีกลิ่นเหม็น
อาการที่เกิดขึ้นได้ มีดังนี้ ตกขาวปริมาณมากขึ้น สีนวลขุ่น มีกลิ่นเหม็น โดยเฉพาะช่วงก่อนและช่วงหลังมีประจำเดือน หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่มีอาการแสบคันในช่องคลอด
การตรวจเพื่อวินิจฉัยภาวะตกขาวมีกลิ่นเหม็น
แพทย์จะทำการตรวจภายใน และนำตกขาวไปตรวจดูภายใต้กล้องจุลทรรศน์ทั้งแบบดูทันที และนำไปย้อมสีก่อนนำมาดู นอกจากนี้แพทย์จะทำการตรวจดูภาวะกรดด่างในช่องคลอดร่วมด้วยการรักษาภาวะตกขาวมีกลิ่นเหม็น
การรักษาทำได้ง่ายมาก โดยการให้ยารูปแบบรับประทานหรือยาทาทั้งสิ้น 7 วัน แต่โดยทั่วไปนิยมให้ยารับประทานมากกว่า เนื่องจากยามีความปลอดภัยสูงและสามารถใช้ได้ในสตรีตั้งครรภ์และสตรีที่กำลังให้นมบุตร อย่างไรก็ตาม ท่านควรแจ้งให้แพทย์ทราบเสมอ หากท่านกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่ ข้อควรระวังสำหรับยาตัวนี้ คือ ควรงดดื่มสุราในระหว่างใช้ยา ตั้งแต่เริ่มไปจนถึงยาเม็ดสุดท้ายหมดไป 24 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
ในกรณีที่ได้รับยาทา ควรหลีกเลี่ยงวิธีการคุมกำเนิดบางชนิด เช่น ถุงยางอนามัยที่ทำจากยางลาเท็กซ์ แผ่นคุมกำเนิดในช่องคลอด เนื่องจากอาจทำให้ประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดลดลง การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการเกิดภาวะตกขาวมีกลิ่นเหม็น
- ควรหลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอดและการใช้น้ำยาอนามัยล้างเฉพาะที่โดยไม่จำเป็นเพราะช่องคลอดมีความสมดุลในตัวอยู่แล้ว ทำความสะอาดแค่ภายนอกใช้น้ำสะอาดอย่างเดียวและซับให้แห้งก็เพียงพอ
- ควรใช้ถุงยางอนามัยจะช่วยลดการเกิดภาวะนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำปฏิกิริยาของน้ำอสุจิในช่องคลอดเนื่องจากเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะตกขาวมีกลิ่นเหม็นได้
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยแผ่นบางติดต่อกันทุกวัน เพราะอาจทำให้เกิดความอับชื้นและเป็น ที่สะสมของเชื้อโรคได้
- ถ้าพบว่ามีตกขาวผิดปกติ ควรรีบไปตรวจหาสาเหตุและรับการรักษา รวมถึงรับคำแนะนำต่างๆจากแพทย์และพยาบาล หลังการรักษาต้องมารับการตรวจซ้ำหรือไม่
หากอาการดีขึ้นภายใน 3-4 วัน ไม่จำเป็นต้องมารับการตรวจซ้ำ ภาวะนี้สามารถเกิดได้บ่อย จากกลไกการเกิดโรคตามธรรมชาติ เช่น ช่วงก่อนและหลังการมีประจำเดือน ท่านอาจสังเกตอาการเองก่อน หากหายไปได้เองใน 2-3 วัน ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมารับการรักษา
หากท่านมีอาการเกิดซ้ำซาก ท่านควรมารับคำปรึกษาจากแพทย์ ในปัจจุบัน มีการรักษาทางเลือก หลายอย่าง เพื่อช่วยให้อาการดีขึ้น แต่ยังไม่มีข้อมูลสนับสนุนมากนัก เช่น การใช้ยาเม็ดที่มีแลคโตบาซิลัสใส่เข้าไปในช่องคลอดจะต้องรักษาคู่นอนหรือไม่
ไม่จำเป็น ยกเว้นคู่นอนของท่านมีอาการปัสสาวะแสบขัดหรือปัสสาวะเป็นหนองหลังมีเพศสัมพันธ์ ภาวะนี้ทำให้มีบุตรยากหรือไม่ ในขณะนี้ไม่มีหลักฐานดังกล่าวหากเป็นภาวะนี้ในระหว่างการตั้งครรภ์จะเกิดอะไรขึ้น พบว่าภาวะนี้มีผลต่อการตั้งครรภ์ โดยสัมพันธ์กับการแท้งบุตร การคลอดก่อนกำหนด และทารกน้ำหนักน้อยแรกเกิด จึงควรได้รับการรักษาทันทีเมื่อได้รับการวินิจฉัยภาวะนี้ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่ ในขณะนี้ไม่มีหลักฐานดังกล่าวหากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการรับข้อมูลเพิ่มเติม
กรุณาติดต่อ หน่วยโรคติดเชื้อทางนรีเวชและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สตรี (คลินิก 309) ตึกผู้ป่วยนอก ชั้น3 โรงพยาบาลศิริราช โทรศัพท์ 02-419-7377 , 02-419-4899 ในวันและเวลาราชการ E-mail address: siriraj.309@hotmail.com หรือ siriraj.309@gmail.com