โรคความดันโลหิตสูง
สามารถป้องกันอัตราการตายจากโรคหัวใจ และโรคอัมพาต โรคความดันโลหิตสูงเป็นภัยเงียบที่คุกคามชีวิตของทุกท่านเนื่องจากไม่มีอาการเตือนดังนั้น การจะทราบว่าเป็นความดันโลหิตสูงจำเป็นต้องวัดความดันโลหิต
โรคความดันโลหิตสูง
ทุกๆคนต้องมีความดันโลหิต เพราะความดันโลหิต จะเป็นแรงผลักดัน ให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนั้นทุกคนควรจะเรียนรู้เกี่ยวกับความดันโลหิต และรักษาให้ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะความดันโลหิตสูงจะทำให้เกิดหลอดแข็งและตีบ
วัดค่าอย่างไรจึงจะเรียกว่าความดันโลหิตสูง
ความดันโลหิตที่วัดได้ (mm Hg)* | |||
ความรุนแรงของความดันโลหิต | Systolic | Diastolic | จะต้องทำอะไร |
ความดันโลหิตที่ต้องการ | น้อยกว่า 120 | น้อยกว่า 80 | ให้ตรวจซ้ำใน 2 ปี |
ความดันโลหิตสูงขั้นต้น Prehypertension | 121-139 | 85-89 | ตรวจซ้ำภายใน 1 ปี |
ความดันโลหิตสูง | |||
ความดันโลหิตสูงระดับ 1 Stage 1 (mild) | 140-159 | 90-99 | ให้ตรวจวัดความดันอีกใน 2 เดือน |
ความดันโลหิตสูงระดับ 2 Stage 2 (moderate) | >160 | >100 | ให้พบแพทย์ใน 1 เดือน |
คนปรกติจะมีความดันโลหิต 120/80 มิลิเมตรปรอท
หากความดันโลหิตตัวบนหรือ systolic มากกว่า 140 มิลิเมตรปรอท หรือความโลหิตตัวล่างเกิน 90 มิลิเมตรปรอทจะเรียกว่า ความดันโลหิตสูง
สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตระหว่าง121/81-139/89 มิลิเมตรปรอทเรียก Prehypertension หมายถึงยังไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูงแต่มีโอกาศที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงในอนาคต ซึ่งจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ชนิดของความดันโลหิต
1.ความดันโลหิตตัวบนสูง Isolated Systolic Hypertension (ISH)
2. Isolated Diastolic Hypertension (IDH) เป็นภาวะที่ความดัน diastolic มากกว่า 90 มม.ปรอทในขณะที่ความดัน systolic ปกติ โดยปกติหากค่า diastolic สูงต้องให้การรักษาเพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของการเกิดโรคหัวใจ อัมพาต และไตวาย เมื่ออายุมากขึ้นความดัน diastolic จะลดลงแต่ความดัน systolicจะเพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน แพทย์จะใช้ทั้ง systolic และ diastolic ในการพิจารณาให้การรักษา
3. White Coat Hypertension (WCH) or Isolated Office Hypertension เป็นภาวะที่วัดความดันโลหิตที่บ้านมักจะต่ำกว่า 135/85 มม.ปรอท แต่เมื่อวัดความดันที่โรงพยาบาลมักจะมากกว่า 140/90 มม.ปรอท ภาวะนี้พบได้ประมาณร้อยละ 15 ของประชากร สำหรับคนที่เป็นความดันโลหิตสูงจะพบได้ประมาณหนึ่งในสาม ภาวะนี้มักจะเป็นในคนที่เริ่มเป็นความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีความดันชนิด White Coat Hypertension (WCH) มักจะไม่ค่อยมีเรื่องอวัยวะเสียหาย คนปกติความดันโลหิตตอนกลางคืนจะต่ำกว่าเวลากลางวันประมาณร้อยละ 10 ผู้ที่เวลากลางคืนความดันลดลงน้อยกว่า 10 %เวลากลางวันจัดเป็น "non-dippers", ซึ่งจะสัมพันธ์กับโรคแทรกซ้อน
ภาวะนี้จะพบในคนกลุ่มใด
ผู้ที่เป็นความดันสูงระดับ 1
พบมากในผู้หญิง
อายุมาก
มักจะไม่สูบบุหรี่
คนที่เริ่มจะเป็นความดันโลหิตสูง
คนกลุ่มนี้อาจจะกลายเป็นความดันโลหิตสูงดังนั้นจึงต้องมั่นวัดความดันโลหิต และต้องตรวจว่ามีโรคอื่นร่วมด้วยหรือไม่ และต้องตรวจหาอวัยวะที่เสียหายจากความดันโลหิตสูงโดยที่ไม่เกิดอาการ Masked Hypertension or Isolated Ambulatory Hypertension ภาวะนี้วัดความดันที่บ้านจะสูง แต่เมื่อวัดความดันที่โรงพยาบาลจะปกติ
4.Orthostatic or Postural Hypotension เป็นภาวะที่ความดัน systolic ลดลง 20 มม.ปรอท ความดัน diastolic ลดลง 10 มม.ปรอทในขณะที่เปลี่ยนจากนอนเป็นยืน 3 นาที ปัญหาที่เกิดคือกลุ่นคนเหล่านี้อาจจะมีความดันโลหิตที่สูงมากในขณะที่นอน แต่วัดความดันท่านั่งหรือยืนปกติ
เมื่อท่านตรวจพบความดันโลหิตสูงถ้าไม่สูงมากอาจจะไม่จำเป็นต้องรับประทานยา แต่หากสูงมากก็จำเป็นต้องรับประทานยา